อาหารต้านมะเร็ง
อาหาร คือปัจจัยสำคัญต่อชีวิตทั้งร่างกาย จิตใจ และเป็นจุดเริ่มต้นของการมีสุขภาพดี แต่ปัจจุบันผู้คนกลับไม่ให้ความสำคัญกับอาหารที่บริโภคเข้าไป โดยหันมานิยมอาหารสมัยใหม่กันมากขึ้น เช่นแฮมเบอร์เกอร์ เฟรนช์ ฟรายส์ สเต็ก เพราะแสดงถึงความมีรสนิยมสูง แต่หารู้ไม่ว่าอาหารเหล่านี้เป็นมหันตภัยที่ก่อให้เกิดโรคร้ายตรง ๆ ต่อร่างกายตนเองเป็นทั้งอันตรายถึงแก่ชีวิต
มะเร็ง เป็นโรคร้ายอันเกิดจากการบริโภคอาหารแบบผิด ๆ โดยบริโภคอาหารที่อุดมด้วยเนื้อ นม ไข่ เนย แป้ง และน้ำตาลเป็นประจำ แต่มะเร็งจะไม่เป็นอันตรายแก่ชีวิตอีกต่อไป หากปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและความคิดเกี่ยวกับสุขภาพ โดยเริ่มต้นจากการหันกลับมาบริโภคอาหารธรรมชาติ ที่ช่วยเสริมสร้าง สมดุลยภาพให้แก่ร่างกาย ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันเท่านั้น ยังสามารถบำบัดรักษาให้หายจากโรคร้ายนี้
สาเหตุของมะเร็ง โดยอาศัยการสังเกตและสรุปเป็นข้อ ๆ ว่า
1. มะเร็งเป็นโรคที่เกิดเป็นที่ ๆ ตรงจุดใดจุดหนึ่งของร่างกาย
2. มะเร็งเป็นการก่อตัวของเนื้อร้าย
3. เนื้อร้ายนี้ประกอบด้วยเซลล์ที่เกิดขึ้นอย่างผิดปกติ
4. เซลล์เหล่านี้เติบโตอย่างอิสระ และไม่มีอะไรจะหยุดยั้งการเจริญเติบโตของมันได้
ในทัศนะแพทย์แผนปัจจุบัน มะเร็งเป็นเพียงคำเรียกรวม ๆ สำหรับกลุ่มของโรคเนื้อร้ายจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะหลากหลาย และปรากฏอาการต่าง ๆ กันนับไม่ถ้วน ในเมื่อเราไม่รู้ว่ามะเร็งคืออะไร กันแน่ ดังนั้น การบำบัดจึงต้องทำไปตามเท่าที่แลเห็นหรือปรากฏเท่านั้น
อะไรคือสาเหตุของมะเร็ง การแพทย์แผนปัจจุบันมีทฤษฏีมากมายที่อธิบาย แต่ที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายคือทฤษฏีที่ว่ามะเร็งนั้นเกิดจาก
ก. กัมมันตภาพรังสี กัมมันตภาพรังสีสามารถก่อให้เกิดการผ่าเหล่าในเซลล์ได้ ดังที่เห็นได้ชัดจากกรณีผู้ประสบภัยจากระเบิดปรมาณูที่ญี่ปุ่น นักรังสีวิทยาก็มีอัตราเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวสูงกว่าแพทย์ทั่วไป อย่างไรก็ตาม มีคนจำนวนมากแม้ได้รับรังสีในอัตราที่สูงแต่กลับแข็งแรง ขณะที่หลายคนได้รับเพียงเล็กน้อย แต่กลับเป็นมะเร็ง
ข. สารก่อมะเร็ง เช่นแอสเบสตอลขี้น้ำมันจากถ่านหิน สารพิษในอากาศ ทฤษฎีนี้เห็นว่าผู้ป่วยมะเร็งมีมากในสังคมอุตสาหกรรม ซึ่งมีมลภถาวะสูง แต่ปัญหาก็คือเหตุใดญี่ปุ่นซึ่งมีอุตสาหกรรมระดับสูงไม่น้อยกว่าสหรัฐกลับป่วยเป็นมะเร็งในสัดส่วนที่น้อยกว่าสหรัสมาก ทั้ง ๆ ที่ผู้ชายญี่ปุ่น สูบบุหรี่มากกกว่าผู้ชายอเมริกันเกือบเท่าตัวด้วยซ้ำ
ค. ลักษณะทางพันธุกรรม โดยที่หญิงญี่ปุ่นเป็นมะเร็งน้อยที่สุดในโลก จึงเชื่อกันว่าอาจมีลักษณะทางพันธุกรรมบางอย่างที่ต่อต้านมะเร็ง แต่ปัจจุบันเราพบแล้วว่าหญิงญี่ปุ่นที่อยู่ในสหรัฐ 10 ปีขึ้นไปเป็นมะเร็งเต้านมในสัดส่วนเท่ากับหญิงอเมริกัน ส่วนหญิงญี่ปุ่นทิ่อยู่ในฮาวาย ซึ่งมีวัฒนธรรมและอาหารอยู่ตรงกลางระหว่างสหรัฐกับญี่ปุ่น จะเป็นมะเร็งเต้านม 2 เท่าของญี่ปุ่นแต่เป็นครึ่งหนึ่งของสหรัฐ
ง. ไวรัสแม้จะพบไวรัสในเนื้อร้ายอยู่เนื่อง ๆ แต่ก็ยังไม่แน่ชัดว่าไวรัสนั้นมาอยู่หลังจากเนื้อร้ายแล้ว หรือไวรัสนั้นเป็นสาเหตุของเนื้อร้าย มีข้อเท็จจริงบางประการซึ่งแพทย์หญิงคริสเตียน นอร์ทรัปเป็นคำถามต่อทฤษฏีนี้ก็คือ
1. ไวรัสและจุลชีวันจะอยู่ในลักษณะพึ่งพาอาศัยกับเซลล์ เนื้อเยื่อและอวัยละของมนุษย์ ปกติ จุลชีวันเหล่านี้จะไม่ก่อโรคจนกว่าหน่วยชีวิตเหล่านี้จะยินยอม
2. คนที่มีสุขภาพดีจะมีจุลชีวันเหล่านี้กันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่ในเลือดของเด็กแรกเกิดที่สุขภาพดี
3. เมื่อฉีดไวรัสและเซลล์มะเร็งที่ยังมีชีวิตให้แก่ร่างกายที่สุขภาพดีปรากฏว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะระบบภูมิคุ้มกันฆ่าสิ่งรุกรานจนหมด
มะเร็งในอวัยยะสำคัญส่วนใหญ่นั้นเป็นผลมากจากแบบแผนของอาหาร กล่าวคือมะเร็งหลายชนิดจะสัมพันธ์ กับปริมาณโปรตีน ไขมัน และน้ำตาลที่เกินเข้าไป ในขณะเดียวกันอาหารซึ่งมีใยหรือกากมากตลอดจนอาหารประเภทถั่วเหลืองและผักที่มีสารคาโรตีนมาก เช่นบรอคโคลี่ กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก จะมีผลต่อต้านมะเร็ง
การให้ความสำคัญกับปัจจัยด้านอาหาร ทำให้สามารถอธิบายได้ว่า เหตุใดคนญี่ปุ่นจึงเป็นะเร็งน้อยกว่าคนอเมริกัน ทั้ง ๆ ที่สูบบุหรี่มากกว่า และอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบอุสาหกรรมอย่างเดียวกัน คำตอบคือคนญี่ปุ่นนั้นกินเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ไม่มากนักไขมันจึงมีในร่างน้อย หากกินข้าวและผักเป็นหลักแต่เรื่องอพยพไปอยู่อเมริกา จะบริโภคเนื้อสัตว์ นมและไขมันมากจะเป็นเร็งในสัดส่วนเดียวกับคนอเมริกัน
นักวิทยาศาสตร์จำนวนมากได้สรุปว่า มะเร็งนั้นสัมพันธ์กับองค์ประกอบ 4 ประการในอาหารสมัยใหม่ ไขมัน โปรตีน และแคลอรี่ที่มากเกินไป โดยมีกากอาหารน้อยเกินไป ทัศนะดังกล่าวนับว่า สอดกคล้องกับแมคโครไบติคส์ เพราะความคิดพื้นฐานของโภชนาการแนวนี้เห็นว่า มะเร็งมิไช่โรคของส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย หากเป็นโรคที่เกิดจากความแปรปรวนไร้สมดุลของร่างกายทั้งระบบ ส่งผลให้อวัยะส่วนใดส่วนหนึ่งแสดงอาการออกมาให้เห็น โดยที่ความแปรปรวนดังกล่าวมีสาเหตุสำคัญมากจากอาหารซึ่งที่ตนอย่างล้นเหลือ ขาดความสมดุล และอย่างไม่สอดคล้องกับธรรมชาติของมนุษย์
การค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ได้พบว่ามีสารอาหารจำนวนไม่น้อยที่มีผลต้านมะเร็งไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง อาทิตย์
กากอาหาร ซึ่งมีมากในข้าวกล้อง ถั่ว ผัก และเมล็ด พืช ช่วยในการระบายของเสีย ทำให้สารก่อมะเร็งบางประเภทไม่สามารถอยู่ในลำไส้ได้นานพอที่จะก่อมะเร็งลำไส้ใหญ่หรือโรคลำไส้อื่น ๆ ได้
คาโรตีน ซึ่งมีมากในผักสีเหลือง แดง เขียว เช่น แครทอ กะเหล่ำปลี คาโรตีน เป็นสารที่ช่วยป้องกันมิให้ออกซิเจนอิสระเข้าไปทำปฏิกิริยาในร่างกายจนเป็นเหตุให้เกิดมะเร็งได้
วิตามินซี ในบรอคเคอลิ ผักขม พบว่าลดโอกาสการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร
วิตามินอี พบมากในผักใบเขียว ข้าวกล้อง ถั่วแห้ง สามารถปกป้องมิให้ร่างกายถูกทำลายด้วยออกซิเจนอิสระจึงป้องกันมะเร็งได้
|